


(เจอแมนครั้งแรกตอนทำร้านไม้แบดลูกแบด ยังสะพายกระเป๋าโยฯ อยู่เลย)
ผมได้ยินชื่อของแมน บุญศักดิ์ พลสนะ เต็มๆ ก็หนที่น้องเค้าได้ที่ 4 กลับมาจากโอลิมปิกที่เอเธนส์ในปี 2004 ตั้งแต่บัดนั้นผมก็สังเกตเห็นได้ว่าคนไทยหันมาเล่นแบดมินตันกันเยอะขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของเด็กและเยาวชน ซึ่งผู้ปกครองให้ความสนใจในกีฬาประเภทนี้ และได้ส่งบุตรหลานของตัวเองฝึกฝน บางท่านเล็งผลเลิศโดยในเด็กๆ เหล่านั้นฝึกฝนอย่างหนักเพื่อความหวังสู่บันไดทีมชาติเหมือนกับ "พี่แมน" ซุปเปอร์แมนของน้องๆ นั่นเอง
สำหรับตัวผมก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าบุญศักดิ์เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งทำให้ผมมีความสนใจในวงการแบดมินตัน จากที่แต่ก่อน ผมเคยเป็นนักบาสฯ แข่งขันระดับกีฬามหาวิทยาลัย และระดับทั่วประเทศ รวมทั้งเป็นคู่ซ้อมให้ทีมบาสเก็ตบอลทีมชาติไทย ปัจจุบันผมได้หันมาเล่นแบดมินตัน เนื่องจากเป็นกีฬาที่หาเพื่อนเล่นได้ง่าย ไปตามก๊วนก็ได้หากเพื่อนไม่ไปตีด้วย เป็นกีฬาที่ใช้ทั้งสมองและพละกำลัง โดยที่ไม่มีการปะทะ หรือถูกเนื้อต้องตัว เล่นได้ทั้งเด็ก, คนแก่, หญิง, ชาย หรือแม้แต่ผู้พิการ และเหนือสิ่งอื่นใดคือได้แรงบันดาลใจจากการที่ดูแมนแข่ง แถมมีตีลูกลีลาไขว้หลังเป็นบางครั้ง
ในเดือนมกราคม 2009 ที่ผ่านมาผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของ KUMPOO ซึ่งตอนนั้นผมยังทำร้านไม้แบดลูกแบดอยู่ ทางญี่ปุ่นก็ได้สอบถามมาว่าผมคิดว่านักกีฬาไทยคนไหนที่มีความน่าสนใจที่คิดว่าทางบริษัทแม่น่าจะให้สปอนเซอร์ ในตอนนั้นผมก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็บอกเค้าไปว่า บุญศักดิ์ พลสนะ ผมบอกทางญี่ปุ่นว่านักกีฬาคนนี้แหละที่ทำให้เด็กไทยรักการเล่นแบดมินตันและมีความหวังที่จะเป็นซุปเปอร์แมนคนต่อไป หลังจากนั้นไม่นานเหมือนดวงชะตาพาไป ผมได้มีโอกาสเจอกับแมน และได้มีการพูดจาถึงแผนงานของทางบริษัท และแผนงานที่เราวางไว้สำหรับอนาคตของแมนด้วยเช่นกัน
หลังจากที่แมนได้พิจารณาข้อเสนอ ก็ตกลงเซ็นต์สัญญาเป็นนักกีฬาให้ KUMPOO ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2009 นี้เป็นต้นไป ดังภาพที่เราได้เห็นกันจากงานพิธีเปิดตัวของ Kumpoo Thailand ที่สยามพารากอนในวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา
